วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติหลวงพ่อกลับ ยสสปญโญ (อินเลี้ยง)


หลวงพ่อกลับ
เป็นเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่ชาวพุทธทั่วไปให้ความเคารพศรัทธา เลื่อมใส แต่ละวันมีลูกศิษย์ลูกหาแวะเวียนมากราบไห้วบูชา แม้ท่านมรณภาพไปเป็นเวลาช้านานแล้วก็ตาม ซึ่งตามประวัติของท่านเท่าที่พอสืบค้นมาได้ยังไม่ละเอียดมากนัก แต่ก็พอเป็นแนวทางในอนุช
นรุ่นหลังได้ศึกษาถึงกิจวัตรปฏิบัติของท่าน ดังนี้

หลวงพ่อกลับ เกิดเมื่อ ปี ฉลู พ.ศ.2419 วันพุธ เดือน 5 เกิดที่บ้านลานกระบือ บิดาชื่อ นายวิน อินทร์เลี้ยง มารดาชื่อ นางจี่ อินทร์เลี้ยง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4 คน คือ
1.หลวงพ่อกลับ 2.นางระเวง 3.นายเป้ 4.นางปุ๊
หลวงพ่อกลับ เมื่อเจริญวัยขึ้นพอที่จะได้รับการศึกษา บิดามารดาจึงได้นำไปฝากให้เรียนอยู่กับพระอาจารย์บุญมี ที่วัดแก้วสุริย์ฉายได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งภาษาไทย และขอม หลังจากนั้นจึงได้กลับมาประกอบอาชีพโดยสัมมาอาชีวะ เมื่ออายุครบอุปสมบท ได้อุปสมบท ณ วัดกำแพงดิน โดยมีหลวงพ่ออู๋ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สว่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้ไปศึกษาพระธรรมวินัยกับหลวงพ่อเทศ วัดสนามคลี อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก และไปศึกษาทางไสยศาสตร์กับหลวงพ่อช่วง วัดทุ่งหลวง หลังจากนั้นก็ได้กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแก้วสุริย์ฉาย ซึ่งเป็นวัดเดิมและไปศึกษาทางไสยศาสตร์กับหลวงพ่อขำ วัดปลักไม้ดำ ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และเป็นเจ้าอาวาสวัดนั้นตลอดมา หลังจากที่หลวงพ่อขำได้มรณภาพแล้ว เมื่อ พ.ศ. 2482 จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นอุปัชฌาย์
อนึ่ง เกี่ยวกับกุศลกิจ เมื่อ พ.ศ.2494 หลวงพ่อกลับได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพสิทธิการามหลังจากออกพรรษาแล้ว เดือน 4 พ.ศ.2495 จึงได้กลับไปสร้างพระอุโบสถ เนื่องจากอุโบสถได้ชำรุดทรุดโทรมลงโดยธรรมชาติ จึงสั่งให้รื้อของเก่าออกแล้วสร้างเสาคอนกรีตทำฝาผนังใหม่ และได้สร้างเสร็จลงเมื่อ พ.ศ. 2503 จึงได้กลับมาจำพรรษาที่วัดเทพสิทธิการามอีก ออกพรรษาแล้ว ตรงกับเดือน 4 จึงกลับไปจัดงานฉลองอุโบสถ เมื่อเสร็จจากการฉลองอุโบสถแล้วจึงอยู่จำพรรษาที่วัดนั้น พ.ศ.2505 เดือน 9 ขึ้น11 คำ เวลาประมาณ 17.00 น. ได้อาพาธลงด้วยโรคชรา อยู่มาได้ตลอดคืนจนกระทั่งถึงวันรุ่งขึ้นซึ่งตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เวลา 15.30 น.หลวงพ่อกลับจึงได้มรณภาพ ด้วยอาการสงบ
(เรียบเรียงประวัติโดย นายแล อ้นอิน อดีตไวยาวัจกร วัดแก้วสุริย์ฉาย)

1 ความคิดเห็น:

  1. ดีมากครับ สำหรับประวัติของท่าน ความจริงน่าจะมีข้อมูลที่เกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง"ชานหมากหลวงพ่อกลับ"ที่ใคร ๆ ก็ยอมรับว่าขลังจริง และช่วงที่ท่านมรณภาพ ความจริงท่านมรณภาพที่วัดบ้านนา อ.สามง่าม จ.พิจิตร ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่และมีโอกาสได้ไปงานฌาปนกิจท่านด้วย สิ่งที่ควรกล่าวถึงอีกอย่างก็คือในช่วงเวลาที่ท่านมรณภาพนั้น ปรากฏเหตุอัศจรรย์ขึ้นคือต้นไม้ใหญ่ที่ข้างกุฏิของท่านก็ล้มลงมาด้วย โดยมิได้สร้างความเสียหายแก่กุฏิของท่านแต่อย่างใด

    ตอบลบ